เวียดนาม ตั๋วไปกลับ 3000

ดานัง ฮอยอัน เวียดนาม ตั๋วไปกลับ 3000 เอง

ใช่แล้วอ่านไม่ผิด Travel On The World บินไป เมืองมรดกโลกสีมัสตาร์ด 

และนั่งกระเช้าขึ้นไปนอนบน ฝรั่งเศสแห่งเวียดนาม ด้วยราคานี้จริงๆ 

สำหรับทริปเวียดนามรอบนี้ เราจะเล่าคร่าวๆก่อนว่า เราใช้เวลา 4 วัน 3 คืน ลงเครื่องบินที่สนามบินดานังแล้วไปเที่ยวฮอยอันเมืองเนิบๆ น่ารักน่าเอ็นดู ชมเมืองเก่า เข้ามิวเซี่ยม ชิมน้ำดอกบัว นั่งคาเฟ่ ไปทะเล ดูโคมไฟ ลอยกระทง เดินตลาดนัด หรือจะ กินปิ้งย่าง สตรีทฟู๊ด ก็ทำได้ภายในเวลา 2 วัน 1 คืน แล้วกลับมานอนดานัง 1 คืน และขึ้นไปนอนบน บาน่าฮิลล์ อีก 1 คืน 

สิ่งที่เราได้จากทริปนี้มากมายก่ายกองมากเล่าสามวันเจ็ดวันก็ไม่หมด 

เอาเป็นว่า ถ้าอยากเห็นว่าเราไปไหนมาบ้าง ก็กดอ่านด้านในเรื่อยๆ ทีละรูปเลย

GoldenBridge

แลนด์มาร์คแห่งใหม่ล่าสุดบนบาน่าฮิลล์ ห้ามพลาดกับการไปเยือน บอกเลยเขตเมืองเก่าฮอยอัน และเป็นเมืองมรดกโลกด้วย  กระเช้าลอยฟ้าที่ใช้เดินทางไปกลับดานังและบาน่าฮิลล์

การเดินทางจากกรุงเทพไปดานัง ง่ายมาก เวลาบินดี เที่ยวบินก็ดีงาม 

นอกจากนี้ยังมีโปรเยอะแยะให้เราติดตามไปกด 

อย่างที่บอกแหละเรากดมาได้ถูกมากเวอร์ บินชิวๆ ไปเล่นๆ ขำๆ ก็ยังได้

Hoi An Heritage Homestay

เราจองที่พักผ่านแอพจองไว้ราคาดีมาก ตกคนละ 200 นิดๆ ต่อคืน(รวมอาหารเช้า) 

แถมยังมีบริการรับพวกเราจากสนามบินดานังมายังที่พักด้วยนะ 

และที่นี่นะ ราคาดี ทำเลดี อยู่ใกล้ย่านเมืองเก่าด้วย เดินไปประมาณ 10 นาทีชิวๆ ก็ถึงเขตท่องเที่ยวแล้ว

ภาพที่คุ้นตา ริมน้ำของเมืองเก่าฮอยอันกับตึกรามต่างๆ 

สีมัสตาร์ดที่โคตรจะเป็นเอกลักษณ์ 

อย่างที่บอกว่า ดานัง ฮอยอันนี่ เค้ามีบริการเรียกรถจาก Grab ให้เราใช้ตลอดเวลา 

เราน่ะ เป็นลูกค้าระดับแพลตตินั่มแล้วจะบอกให้  ตอนเราไปต่างประเทศ เราก็ใช้วิธีตัดเงินผ่านบัตรเดบิตเอาไว้ เพราะโปรโมชั่นจะเยอะมาก

Japanese Bridge

แลนด์มาร์คที่แรกของฮอยอัน สะพานญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวทั้งหลายต่างมุ่งหน้ากันมาถ่ายรูปกับจุดนี้ 

ทางเข้ามีรูปปั้นหมากับลิง ที่ต้องไปดู มันแสดงถึงปีที่เริ่มสร้างกับปีที่สร้างเสร็จ ความสวยงาม 

คลาสสิค และเสน่ห์เฉพาะตัวบอกเลยว่าคุ้มค่า

การเดินเล่นเที่ยวเมืองเก่าฮอยอันสามารถเดินได้ทั่วๆ ไปแบบฟรีๆ 

ถ้าเราใจกล้าพอที่จะไม่จ่ายค่าเข้า

คือพวกเราอ่ะ โดนเรียกไปเก็บค่าเข้าย่านนี้ ด้วยตั่วราคาประมาณ 120,000 ดอง 

แต่สามารถใช้ตั่วเข้ามิวเซี่ยมทุกที่ที่อยู่ในเมืองฮอยอัน

แต่เราก็แอบเห็นนะว่าคนอื่นก็เดินเข้าไปเลย ไม่ต้องจ่าย 

แต่สำหรับเรา ควรจะจ่ายเพื่อให้ทางเมืองเค้าได้เอาไว้เป็นค่าบำรุง ให้คนอื่นๆ ได้มาเที่ยวกันอีกนาน

Cá Mai

ร้านอาหารพื้นเมือง คืออีกร้านที่ต้องห้ามพลาด สำหรับเรา ก็ขอเลือกเข้าร้านที่ค่อนข้าง

จะดูดีนิดนึงให้สมกับฐานะ 

ที่จริงคือ เราไปกับเพื่อนที่ค่อนข้างจะทานยากนิดนึง เลยต้องเข้าร้านที่ดูดี เซฟไว้ก่อน แต่บอกเลยว่า 

ไปเวียดนาม ไปฮอยอันทั้งที ต้องห้ามพลาดลอง บั้นเบี้ยว แต่ร้านนี้ ถือว่าใช่ได้เลย จำเมนูไม่ได้ละ เพราะตอนนั้นชี้ๆเอาแต่ ราคาสูงเอาเรื่อง

Duc An House

เรามัวแต่ใจจดใจจ่อตรงไปยังร้านน้ำดอกบัว จนเกือบลืมไปเลยว่า ตรงข้ามร้านน้ำดอกบัว 

มีมิวเซียมอีกที่นึงให้เข้าไปชม 

นี่คือบ้านเก่าดูอัน บ้านดั้งเดิมของเมืองนี้ มีอายุมากกว่า 180 ปีมาแล้ว ข้างในมีของใช้เก่าๆ 

ให้เราไปชมมากมาย

Faifo Coffee

หนึ่งในไม่กี่คาเฟ่ของฮอยอันที่มีชั้นดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวเมือง มุมบนดาดฟ้าของที่นี่ เค้าว่ากันว่า 

มาเอาแสงตอนพระอาทิตย์ตกนี่สวยอย่าบอกใคร แต่เรารอไม่ไหว คนแน่นเหลือเกิน

ถ้าหากใครเคยลองเซิร์ทอ่านเรื่องเมืองฮอยอันอ่านคร่าวๆ บ้าง ก็จะรู้ว่า 

เมืองนี้มีแม่น้ำคู่บ้านคู่เมือง นั่นก็คือ แม่น้ำทูโบน 

ริมแม่น้ำจะมีเรือสำหรับจอดรอนักท่องเที่ยว หากอยากล่องเรือชมวิว 

ชมตึกรามบ้านช่อง หรือจะมาลอยกระทงตอนกลางคืนก็ได้

เมืองแห่งโคมไฟ และบรรยากาศยามค่ำคืนของ Lantern Town

อีกสิ่งที่ต้องจดไว้ ว่ามาฮอยอันแล้วห้ามลืม คือการถ่ายรูปกับบรรดาโคมไฟ

ที่ประดับประดาทั่วไปทั้งเมือง

วิถีชีวิตริมแม่น้ำทูโบน และการลอยโคมพร้อมคำอฐิษฐานในยามค่ำคืน

ลอยกระทงได้ทุกวันไม่ต้องรอวันเพ็ญเดือนสิบสอง