วันธรรมดาน่าเที่ยว ใกล้กรุง

วันธรรมดาน่าเที่ยว ใกล้กรุง 

สระแก้ว ปราจีนบุรี  นครนายก

อีกหนึ่งทริปที่ประทับใจกับการได้พาลูกไปหรรษาใกล้กรุง แบบทริปเดียวได้เที่ยว 3 จังหวัดเลย 

โดยเฉพาะ จังหวัดสระแก้ว เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยว จังหวัดสระแก้ว 

ทริปนี้จัดเต็มสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในแต่ละจังหวัดให้เพื่อนๆ ได้แชร์เก็บไว้ หรือใครมีแพลนจะไปเที่ยวอยู่แล้วลองสถานที่เหล่านี้เป็นอีกตัวเลือกที่ขอบอกเลยว่าไปเที่ยวได้ทั้งบ้านสนุกสนานกันได้ทุกวัย โดยเฉพาะการไปเที่ยววันธรรมดา ราคาที่พักก็จะถูกเป็นพิเศษ รถก็ไม่ติด 

ไปทานอาหารร้านไหนก็ไม่ต้องรอคิวเยอะ

1.โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ 

เราล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า มุ่งหน้าไปยังจังหวัดสระแก้ว ตั้งใจไปที่โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ เป็นโครงการพระราชดำริในมูลนิธิชัยพัฒนา โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่ฝึกชาวนา ตั้งแต่การไถนา การปลูกข้าว ให้สามารถทำการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพเรียกว่าใครที่ดำนาไม่เป็นอยากไปเรียนรู้ที่นี่ก็มีปราชญ์คอยสอน คอยแนะนำ ได้ความรู้กลับบ้านแน่นอน

และรับประทานอาหารที่ร้าน เมนูอร่อยๆ บรรยากาศดี ทีเด็ดคือ 

ควายคะนองทุ่ง เป็นเครื่องดื่มที่ต้องชิมเลย

ที่ตั้ง : ต.สระแก้ว อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว

2.The Verona @Tablan

ออกจากสระแก้วเราไปเที่ยวต่อที่ จังหวัดปราจีนบุรี กับสถานที่สุดฮอต และเรียกว่าทำให้เรารู้จักจังหวัดนี้จากที่นี่จริงๆ The Verona @Tablan เราไปที่นี่กันหลายครั้งแล้วแต่ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้งเพราะว่า

เราจะพาไปเล่นกิจกรรมสนุกๆ และทริปนี้เราก็พักกันที่นี่ด้วย กิจกรรมอย่างแรกคือการนั่งรถชมฟาร์ม ซึ่งแต่ละเดือนหรือแต่ละฤดูกาลก็จะมีให้ชมแตกต่างกันไป แนะนำว่าช่วงปลายปีจะสวยๆสุดๆ เพราะที่ฟาร์มจะมีแปลงสตอว์เบอร์รี และดอกไม้นานาพันธุ์ที่จะเบ่งบานกันไปทั้งฟาร์มเลย 

หรือใครสายแอดเวนเจอร์ทางนี้ อยากชวนไปเล่นกันทั้ง โหนสลิงก็ไม่พลาดที่จะเล่น 

รอบแรกเล่นกับพี่เจ้าหน้าที่หน้าตาก็ดูเครียดๆ แต่พอเล่นก็บอกเลยว่าอยากเล่นอีกรอบ  

ในส่วนของโรงแรมบรรยากาศตอนเช้าดีมากอากาศเย็นสบาย มีหมอกเต็มไปหมด

ที่ตั้ง : ตำบล บุพราหมณ์ อำเภอ นาดี ปราจีนบุรี

ห้องพักราคาเริ่มต้น 2,000 บาท ต่อคืน ข้อมูล เนี่ย! ประหนึ่งสวนหลังบ้าน ไร้ผู้คน 

ข้อดีของการเที่ยววันธรรมดามันดีงี้เอง

3. ล่องแก่งหินเพิง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

ที่สุดของความสนุกของความสนุกของการล่องแก่งที่ติดอันดับต้นๆ ในประเทศไทยต้องไปล่องแก่งหินเพิงสักครั้งในชีวิต บอกเลยว่าน้ำช่วงปลายฝนต้นหนาวกำลังดี เคยไปมาแล้วเมื่อสัก 2 ปีก่อน ตอนนั้นระดับน้ำคือสูงที่สุดในรอบ 5 ปีก็ว่าได้ กลับไปอีกครั้งก็สนุกเหมือนเดิม

และก็ยังไปกับศักดิ์สุภา รีสอร์ท เจ้าเดิมด้วย ปลอดภัย มั่นใจ ได้เลย

การไปล่องแก่งนั้น เพื่อนๆ ต้องเดินทางประมาณ 2 กิโลเมตร เพื่อไปยังจุดเริ่มต้นการล่องแก่ง เดินในป่าท่ามกลางธรรมชาติ ร่มรื่น แนะนำให้ใส่รองเท้าแตะหรือรองเท้าที่ลุยน้ำได้แบบทนๆ หน่อย

ติดต่อล่องแก่งกับศักดิ์สุภา รีสอร์ท

ราคา : เหมาลำ ลำละ 3,500 บาท นั่งไม่เกิน 8 คน จอยกรุ๊ป คนละ 500 บาท หรือ 750 บาท 

ได้อาหารบุฟเฟต์กลางวัน และกิจกรรมโดดขอฟรี! 

หรือใครจะพักที่นี่สักคืนก็มีบ้านพักให้บริการด้วยสอบถามแพคเก็จได้โดยตรง

ที่เบอร์โทรศัพท์ : 062 5249698 , 081 5151946

4. ทุ่งดอกหงอนนาค อ.นาดี ปราจีนบุรี

ไม่มีแรงไปภูสอยดาว ไปปราจีนก็ได้นะ เป็นทริปที่ชวนกันไปเที่ยววันธรรมดา แวะไปล่องแก่งหินเพิงมาขากลับก็เลยเดินไปดู ทุ่งดอกหงอนนาค ที่ศักดิ์สุภารีสอร์ท 

สักหน่อย เป็นอีกปีที่ได้ไปเที่ยวที่นี่ ซึ่งตอนนี้ดอกหงอนนาคเริ่มบานสะพรั่งสวยงามมากและคาดว่าจะสะพรั่งสวยงามทั้งหมดกลางเดือนกันยายนเป็นต้นไป ซึ่งเปิดให้เที่ยวอย่างเป็นทางการ 1 ก.ย. 61 ส่วน

จะบานไปถึงวันไหน เดือนอะไรนั้นเพื่อนๆ ไปอัพเดตกันได้ในหน้าเพจของศักด์สุภา รีสอร์ท ได้เลย

5. พิพิธภัณฑ์พระยาอภัยภูเบศร 

อ.เมือปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี

พิพิธภัณฑ์เจ้าพระยาอภัยภูเบศร อาคารสีเหลืองสไตล์บารอคเปี่ยมมนต์ขลัง 

คลังความรู้แพทย์แผนไทยริมน้ำปราจีนบุรีทีใครไปต้องแวะไปเที่ยวสักครั้ง

จากความตั้งใจเดิมของ “เจ้าพระยาอภัยภูเบศร (ชุ่มอภัยวงศ์)” ที่ใช้ทรัพย์สินส่วนตัวสร้างตึกหลังนี้เพื่อใช้เป็นที่ประทับรับเสด็จ รัชกาลที่ 5 แต่ทรงเสด็จสวรรคตเสียก่อน ต่อมาจึงใช้เพื่อรับเสด็จรัชกาลที่ 6 และเชื้อพระวงศ์อีกหลายพระองค์ จนเมื่อปี พ.ศ. 2482 อาคารหลังนี้ก็ได้ถูกมอบให้ทางราชการใช้เป็นอาคารพักผู้ป่วยที่นับว่าสวยงามที่สุด และได้รับการบูรณะปรับเปลี่ยนการใช้งานอาคารอยู่หลายครั้ง

จนมาถึงการจัดให้ “ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” หลังนี้เป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร 

ที่มีความสวยงามจากสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ไม่ว่าจะเป็นลวดลายการปูกระเบื้องในแต่ละห้องที่ด้านในนอกจากจะสวยงามแล้วยังเต็มไปด้วยองค์ความรู้ด้านการแพทย์อีกด้วย 

ห้องนี้เป็นห้องที่อัดแน่นไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิด

เราได้เรียนรู้การทำยาดมสมุนไพรของตัวเองด้วยนะ ซึ่งเป็นสูตรของอภัยภูเบศรเลย มีให้สมุนไพรเลือก 10 อย่าง เราสามารถเลือกกลิ่นที่ชอบได้เลย ได้แก่ อบเชย สมุลแว้ง พริกไทยดำ ดอกจัน กระวาน โกศสอ ลูกผักชี โกศหัวบัว ว่านหอม กานพลู สำหรับน้ำยาดม จะมี พิมเสน เมนทอล การบูร น้ำมันยูคาลิปตัส

6. บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร 

อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี

เป็นร้านในเครืออภัยภูเบศร เปิดบ้านแห่งการเรียนรู้ ภูมิปัญญาสมุนไพร ปัจจุบัน เจ้าของบ้านคือ “ครอบครัวเปี่ยมสมบูรณ์” ซึ่งมอบบ้านหลังนี้ให้ “มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” 

ดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณะประโยชน์ เป็นเวลา 10 ปี บรรยากาศด้านในร่มรื่นมาเลย 

ตัวร้านเป็นบ้านสีขาวตั้งอยู่ท่ามกลางต้นไม้ต้นใหญ่และสวนสวย

อาหารของที่นี่จะเน้นสมุนไพรเป็นหลัก เราได้เรียนรู้การทำเมนูแสนอร่อยที่เป็นเมนูเด่นของร้านด้วย 

นั่นก็คือ ราดหน้า ที่ไม่ใช้น้ำมันและเส้นสีสวยๆ นั้นก็ทำมาจากดอกอัญชัน ส่วนของหวานบัวลอย

ก็สีสันสวยจามจากสมุนไพรเช่นเดียวกัน บอกเลยว่าอร่อยมาก

บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพร

พิกัด : 51 ถนน หน้าเมือง ตำบล หน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี 

เบอร์โทรศัพท์ : 097 021 1037

เปิดบริการ : 10.00 – 19.30 น. ปิดวันจันทร์

7. เขื่อนขุนด่านปราการชล 

อ.เมืองนครนายก จ.นครนายก

ที่สุดของแหล่งโอโซนในนครนายก เขื่อนขุนด่านปราการชล เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ชอบไปเที่ยว อย่างแรกที่ชอบคืออากาศดี มีกิจรรมให้เรานั่งรถรางชมสันเขื่อน หรือจะนั่งเรือไปชมน้ำตกก็ชิลล์มาก

การนั่งเรือไปชมน้ำตกนั้นจะมีราคาเหมาลำที่ 1,500 บาท นั่งได้ 7 คน หรือสามารถไปจอยทริปได้คนละ 200 บาท ใช้เวลานั่งประมาณ 20 นาทีก็ถึงน้ำตกผางามงอน ที่ต้องเดินขึ้นไปยากสักนิดนึงน้ำกำลังเยอะสวยมากๆเลย หลังจากนั้นก็ไปต่อที่น้ำตกคลองคราม อันนี้เดินง่ายหน่อยเลยเดินได้สบาย 

สุดท้ายของทริปนี้คือน้ำตกช่องลม

เป็นอีกหนึ่งทริปที่สนุกสนานกัน ลองไปเที่ยววันธรรมดาแบบขับรถไม่เหนื่อยมาก ใกล้กรุงแค่เนี่ยเอง ข้อดีของการเที่ยววันธรรมดาก็คือ ราคาที่พักในวันธรรมดาจะถูกกว่าวันหยุด คนไม่เยอะมากไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูปด้วย สระแก้ว  ปราจีนบุรี  นครนายก 3 จังหวัดที่เที่ยวได้ในทริปเดียว