วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562

ไปทำบุญกันหรือยัง " วัดแสงแก้วโพธิญาณ "


วัดแสงแก้วโพธิญาณ” ตั้งอยู่บนดอย “ม่อนแสงแก้ว” ตำบลเจดีย์หลวง อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย
วัดแห่งนี้ มีขนาดพื้นที่ประมาณ 29 ไร่เศษตั้งอยู่บนเนินดอยห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1.5 กิโลเมตร มีทัศนียภาพที่สวยงามมองลงมาเห็นทั้งตัวอำเภอแม่สรวย และหลายตำบลของอำเภอแม่สรวย การเดินทางก็สะดวกสบาย มีถนนลาดยางไปถึง ง่ายมาก สำหรับใครที่ นำรถไปให้ไปจอดด้านตรงข้ามวัดเข้าจะมีลานจอดรถขนาดใหญ่ ไว้คอยให้บริการพุทธศาสนิกชน จากนั้นจึงเดินเข้าสู่ตัววัดพระธาตุแสงแก้วโพธิญาณ
ภาพแรก ของคนที่มาครั้งแรก ไม่มีใคร ไม่อ้าปากค้าง กับภาพความวิจิตร งดงาม อลังการ กับภาพตรงหน้า และต้องหยุดยืนถ่ายภาพมุมกว้าง ที่เห็นทั้งลานวัด และพระพุทธรูป เจดีย์ บันไดนาค ที่อยู่เหลื่อมล้ำ กันขึ้นไปเป็นทอดๆ
มาพูดถึงประวัติของ วัดแสงแก้วโพธิญาณ กันสักเล็กน้อย วัดนี้ สร้างขึ้น เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 โดยท่านพระครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต คณะศรัทธาบ้านป่าตึง และศิษยานุศิษย์ เพราะต้องการจะมีวัดใหม่ที่สะดวกต่อการทำบุญของญาติโยม จึงได้คิดสร้างวัดใหม่ขึ้นมาเพื่อเป็นพุทธสถาน เป็นแหล่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ของพุทธศาสนิกชน พ่อหลวงยา ศรีทา ได้เชิญเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นผู้มีฐานะดีมาพบกับท่านครูบา อริยชาติ เพื่อพูดคุยปรึกษา หารือในเรื่องการสร้างวัดบนของที่ดินผืนนี้ เจ้าของที่ดินได้ถวายที่ดินประมาณ 19 ไร่เศษให้กับท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโตเพื่อสร้างวัดอย่างง่ายดาย เมื่อศิษยานุศิษย์ คณะศรัทธาและผู้ที่นับถือ ท่านครูบาอริยชาติ อริยจิตฺโต ทราบข่าวการสร้างวัด ได้แสดงความจำนงค์ในการร่วมสมทบทุน สร้างวัดเป็นจำนวนมาก

สำหรับ การออกแบบวัดนี้พระครูบาอริยชาติ อริยจิตโต ท่านออกแบบเป็นชั้นๆ ชั้นแรกเมื่อเข้ามาจะเห็นรูปเหมือนแทนพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ คือ พระกกุสันธพุทธเจ้า พระโกนาคมนพุทธเจ้า พระกัสสปพุทธเจ้า พระโคตมพุทธเจ้า มีสิงห์คู่ตัวใหญ่ เดินขึ้นมาถึงชั้นที่ 2 เป็นพุทธาวาสเป็นเขตของพระพุทธเจ้า เป็นที่ทำสังฆพิธีต่างๆ มีอุโบสถ วิหาร หอไตร มีปราสาท 16 หลัง แทนพรหม 16 ชั้น มีศาลา 16 ห้อง แทน 16 ชั้นฟ้า ชั้นที่ 3 เป็นชั้นที่ตั้ง กุฏิ ของพระครูบาอริยชาติ และเป็นที่ตั้งขอพรจากท่านเทพทันใจ แม่นางกวัก แม่กระซิบ อีกทั้งยังเป็นที่ให้เช่าบูชา วัตถุมงคลต่างๆ ของทางวัด มีศาลาเอนกประสงค์ไว้สำหรับพักผ่อน กับบรรยากาศที่ร่มรื่น หอฉัน ห้องน้ำ ก็อยู่ในชั้นนี้ด้วย
ขึ้นต่อไปชั้นที่ 4 เป็นการจำลองเรื่องโลกและจักรวาลด้านหน้าของทางเข้ามี เทพนพเคราะห์ 9 องค์ ก่อนเข้าวงเวียนเจอ ยักษ์หลับและยักษ์ตื่น แทนกลางคืนและกลางวัน
เรียกได้ว่า ทุกสิ่งก่อสร้าง ทุกสถาปัตยกรรม และทุกประติมากรรม จะมีความหมายทางธรรมะ แฝงอยู่เสมอ ผู้ที่มากราบพระ ไหว้พระขอพร ที่วัดนี้ ก็จะได้ไขปริศนาธรรมไปด้วยอย่างเพลิดเพลิน
มาถึงความรู้สึกส่วนตัวของแอดมินหลังจากที่ได้ไปเยี่ยมชมวัดแห่งนี้ คือต้องยอมรับว่าสถาปัตยกรรมอลังการงานสร้างจริงๆ วัดกว้างมากก เดินเหนื่อยเอาเรื่องนะ (แดดร้อนด้วยฮ่าๆ) ระหว่างการเดินรอบๆวัดก็จะมีสถาปัตยกรรมต่างๆให้ได้ชมแบบไม่มีเบื่อกันเลยทีเดียว


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เที่ยววังน้ำเขียว ชมไร่องุ่น ปากช่อง โคราช สบายใจที่สุด

                 โคราชหรือนครราชสีมาหรืออีกชื่อที่เรียกกันนั้นก็คือเมือง ย่าโม เป็นปากทางเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นจังหวัดหนึ่งที...