สวัสดีจากประเทศ 'เคนยา'
สวัสดีจากประเทศ 'เคนยา' ครับ ตอนนี้เราอยู่ที่อุทยานแห่งชาติ Masai Mara ทางตอนใต้ของประเทศซึ่งเป็นแหล่งอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรสัตว์ป่ามากมายที่มีชื่อเสียงระดับโลก
ทริปนี้เราเลือกพักกันที่ Sand River Masai Mara ในเครือ Elewana ซึ่งแน่นอนว่าไว้ใจได้เรื่องความพิเศษและคุณภาพงานบริการเต็มรูปแบบ
ที่พักแห่งนี้ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ Masai Mara บริเวณริมฝั่งแม่น้ำ Sand ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ Serengeti ของประเทศแทนซาเนีย เรียกว่าแค่มองข้ามไปก็เป็นอีกประเทศแล้ว
รูปแบบของห้องพักเป็นแคมป์แบบเต๊นท์ผ้าใบสไตล์บริติชยุค 1920 ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร
โดยใช้ผ้าใบยึดตามโครงสร้างไม้จนมิดชิดหมดทุกมุม
ด้านในตกแต่งแบบย้อนยุค 1920 โดยใช้ไม้เป็นองค์ประกอบหลัก แต่ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกในยุคใหม่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น อ่างอาบน้ำ โถส้วม รวมทั้งไฟฟ้า
แม้เต๊นท์ทุกหลังจะไม่มีแอร์ แต่ก็ไม่รู้สึกร้อนเลยเพราะออกแบบมาให้อากาศถ่ายเทได้ดี กลางวันเปิดพัดลมก็ช่วยได้แล้ว ส่วนกลางคืนอุณหภูมิตามธรรมชาติจะต่ำลงจนเหมือนเปิดแอร์เลย
ในห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบ single bed และ double bed โดยตอนกลางคืนพนักงานจะมากางมุ้ง
เพื่อกันแมลงอีกชั้นหนึ่งให้
ทางเข้าเต๊นท์เป็นประตูแบบซิบรูดเปิดปิด ถ้าออกจากห้องพักต้องรูดปิดให้หมดพร้อมใส่ขอล็อคไว้
กันแมลงและลิงเข้ามา ส่วนห้องนั่งเล่นตรงทางเข้าเต๊นท์ มีวิสกี้ให้จิบชิลล์ๆ ด้วย
ถ้าอยากอาบน้ำกลางแจ้งก็ทำได้ มีที่ไว้พร้อม แต่อาบได้เฉพาะตอนกลางวันนะ
บรรยากาศโดยรวมของที่พักยามเย็น ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำด้วย เว่อร์วังจริงๆ
ตกเย็นก็อีกฟีลเลยจริง
ล็อบบี้มีทั้งหมด 2 ที่ เพราะเต๊นท์แต่ละหลังค่อนข้างห่างกัน ถ้ามีที่เดียวคนที่อยูเต๊นท์หลังๆ
ต้องเดินไกล ที่นี่มีทั้งหมด 16 เต๊นท์ เรียงขนานไปกับแนวแม่น้ำ
ด้านในล็อบบี้ตกแต่งแนวย้อนยุคเหมือนเป็นนักสำรวจยุคก่อน ห้องเตียง Double bed หรูหราไม่แพ้กัน
พอตกดึกหน่อยจะมีเสียงร้องของสรรพสัตว์ ไม่ต้องตกใจ เป็นเรื่องปกติครับ เค้าบอกมา
เรื่องอาหารการกิน เสิร์ฟครบทุกมื้อจัดเต็ม มีทั้ง starter, main course และของหวาน ตามมาตรฐานเลย ในรูปนี้คืออาหารเคนยาแท้ๆ รสชาติพอใช้ได้ Main course มื้อเย็นเป็นแนวสเต๊กทั้งหมด
ปิดท้ายด้วยภาพควายป่า 2 ตัวตรงแม่น้ำ Sand ฝั่งแทนซาเนียที่สามารถมองเห็นได้จาก
ห้องพักกันเลยทีเดียว
โดยรวมจัดว่าเป็นที่พักที่ดีมากครับ รู้สึกว่าได้ใกล้ชิดธรรมชาติแบบจริงๆ
ชนิดว่าเห็นควายป่าได้จากในห้องพัก
แต่ก็ไม่ได้รุกล้ำธรรมชาติจนเกินไปเพราะเค้าดูให้ความสำคัญพร้อมเน้นย้ำเรื่องการรักษาทรัพยากรธรรมชาติกับเรามากๆ
อีกทั้งรอบบริเวณที่พักยังไม่มีการกั้นรั้วใดๆ เลยอีกด้วย แต่ก็ปลอดภัยจากสัตว์ป่านะครับ ไม่ต้องกลัว
สำหรับการเดินทางมา เราเลือกใช้เครื่องบินของ Airkenya บินจากสนามบิน Wilson ในกรุง Nairobi เมืองหลวง ตรงมายัง Keekorok Airstrip สนามบินสุดแนวกลางทุ่งหญ้าสะวันนา
จากนั้นมีรถจากที่พักมารับอีกต่อหนึ่ง โดยทริปนี้เราใช้บริการของ
travel agent ที่ชื่อว่า Cheli & Peacock Safari ในการจัดการเรื่องการเดินทางภายในและ
ที่พักให้ครับ เพราะอย่างที่รู้ว่าประเทศในแอฟริกานั้นระบบต่างๆ ยังไม่พร้อมมากนักนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น