เที่ยว “Ocean Park” Hong Kong
ไม่ว่าจะโตแค่ไหนพอได้ไปเที่ยวสวนสนุกทีไร ก็เหมือนได้ทะลุย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กวัยใสทุกที
แต่สวนสนุกครั้งนี้ขอบอกว่าฟินกว่าตอนเด็กม๊ากมาก เพราะนอกจากเราจะได้บุกสวนสนุกตะลุยกับหลากหลายเครื่องเล่นใน “Ocean Park” ฮ่องกงแล้ว ยังได้ร่วมงานเทศกาล Drink’N Music Fest 2018 presented by Prudential ภายในสวนสนุกแห่งนี้อีกด้วย
พวกเราจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนภายในสวนสนุกที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียงตระการตาจนอ้าปากค้างของเกาะฮ่องกง เกาะเล็กๆ ที่ไม่เคยหลับไหลนี้ แถมภายในงานยังจัดเต็มทั้งเครื่องดื่ม เบียร์ชั้นดีที่การันตีด้วยรางวัลมานับไม่ถ้วน รวมไปถึงอาหารรสเลิศจากทั่วทุกมุมโลก และที่ขาดไม่ได้เลย คือความสนุกก็ต้องมาพร้อมกับเสียงดนตรีอยู่เสมอ ในงานจึงมีวงดนตรีฮิตๆ กว่า 20 วงมาแสดงคอนเสิร์ตให้เรายืนส่ายเอว จิบเบียร์อุ่นๆ พร้อมเล็งหนุ่มพลางๆ แอบบอกเลยว่างานนี้มีจัดเฉพาะสุดสุดสัปดาห์ ตั้งแต่ 10 มีนา ถึง 2 เมษา เพราะฉะนั้นใครมีแพลน จะไปฮ่องกงในช่วงนี้ พลาดงานนี้ไม่ได้ด้วย
สำหรับโอเชียลปาร์ค ฮ่องกง สวนสนุกที่ได้อัพเกรดตัวเองให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวติด Top 10 ในฮ่องกง แถมยังเชื่อมระหว่างคนกับธรรมชาติไว้ได้อย่างลงตัว ความเก๋ไก๋ได้ปลื้มจนเป็นกิมมิคของที่นี่คือ สวนสนุกตั้งอยู่บนยอดภุเขาสูง ที่ถูกเชื่อมต่อกันโดยกระเช้าลอยฟ้าที่นั่งกี่ทีก็ดีจนบรรยายออกมาไม่หมดและไหนรถไฟโอเชี่ยนทะลุเขาอีก ซึ่งในทุกๆ ปีก็จะมีเทศกาลตามฤดูกาลทั้งซัมเมอร์,ฮาโลวีน,คริสต์มาส,แอนนิมอล ดิสคอฟเวอรี่, รวมถึง ดริ้ง แอนนด์มิวสิคเฟสนี้ด้วย
การเดินทางมา Ocean Park ก็ง่ายแสนง่ายด้วยระบบรถ MRT ของฮ่องกงที่ดีจนประทับใจจนทุกวันนี้ มาลงสถานี Ocean Park Station ได้เลย เดินอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงประตูสู่ความสนุกในดินแดน
สุดหรรษาครื้นเครงนี้แล้ว
ก่อนจะเริ่มมิชชั่นที่ตั้งเป้ามาตั้งแต่แรก คืองาน Drink’N Music Fest 2018 เราขออาสาจับมือพาไปดูไฮไลต์เด็ดตามโซนต่างๆ ภายในสวนสนุกแห่งนี้กันก่อน ว่าอะไรบันเทิงแก่ใจกันบ้าง
เริ่มจากอะไรที่ดูซอฟท์ๆ เบาๆ เหมาะกับการย้อนวัยใสอย่างโซน มหัศจรรย์สัตว์เอเชีย
(Amazing Asian Animals) กันก่อน ไฮไลต์ของโซนอยู่ที่ความน่ารักคูณสิบของแพนด้า Le Le และ Ying Ying ที่นั่งกินไผ่เคี้ยวตุ้ยๆ แบบไม่แคร์สายตาหลายคู่ที่จ้องมองนาง แถมแพนด้าที่นี่ยังเป็น
แพนด้ายักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย เรารู้สึกว่าโซนนี้เด็กๆ แฮปปี้จนยิ้มหน้าบานกันเป็นแถวเลย
ขนาดผู้ใหญ่อย่างเรายังกลั้นยิ้มให้กับความน่ารักของแพนด้าคู่นี้ไว้ไม่อยู่เลย
นอกจากแพนด้ายักษ์แล้ว ก็มีแพนด้าแดงที่หาดูได้ยากแต่มีให้เราดูอยู่ที่นี่ บางมุมมองแล้วก็เหมือนหมี บางทีดูดีๆ ก็เหมือนแมวตัวใหญ่ เราก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน
แต่ไม่ว่าจะมุมไหนรวมๆ แล้วน่ารักได้ใจไปเต็มๆ
เดอะ แกรนด์ อควาเรียม (The Grand Aquarium) โดมพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ที่จะพาเราเดินทางจากชายฝั่งดำดิ่งลึกไปให้สุดของมหาสมุทร ให้เราได้ใกล้ชิดกับปลาหลากหลายสายพันธุ์ด้วยตาเราเอง มีทั้งปลาเล็ก แมงกะพรุนหลากสี ยันถึงปลาใหญ่ที่ครองความขลัง
ใต้ท้องทะเลลึกอย่างฉลามก็มีเช่นกัน
ถ้ายังดำดิ่งลงไปลึกไม่พอ เราขอพามาโซน ชาร์ก มิสทีค (Shark mystique) มาดูการแสดงฉลามและกระเบนหลากหลายสายพันธุ์แบบ 360 องศา ประหนึ่งว่าเป็นนางเงือกน้อยเมอเมทใต้น้ำที่มี
เพื่อนซี้เป็นนีโม่ได้เลย โซนนี้จะมีการให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานในร่างกายต่างๆ
ฉลาม ตั้งแต่ การเคี้ยวด้วยฟันที่แหลมคม การออกลูก การดมกลิ่น ยันไปถึงฟีตเจอริ่งกันใต้น้ำ
ตื่นตาตื่นใจกลับโลกใต้ทะเลยังไม่สุด ขอฉุดพวกแกแวะเติมพลังที่ห้องอาหารเนปจูน ใกล้กับจุดชมวิวของ Grand Aquarium ที่นี่เด็ดมากไฮไลต์ไว้หน่อยว่าควรค่ากับการมา คิดดูสิว่ามันจะดีแค่ไหน
ได้กินข้าวแบบสวยๆ ดูปลาแหวกว่ายแวะทักทายเราไปด้วย ฟีลลิ่งแบบนี้ไม่ต้องบินไปไกลถึง
มัลดีฟท์ โอเชี่ยลปาร์คก็จัดให้ไม่น้อยหน้านะบอกเลย
บรรยากาศลงตัวแล้ว อาหารก็ดีงามไม่แพ้กัน เราขอแนะนำจานนี้ ภูมิใจนำเสนอขั้นสุดกับสลัดเนื้อปูอโวคาโด ไข่เป็ดรมควันไม้ฮิคกอรี เป๋าฮื้อย่างและหิยเชลล์นาดซอสยากินิกุที่เด้งสู้ฟันแต่ละลายในปาก
จานนี้ก็เด็ดสั่งมาคู่กับจานแรกที่แนะนำไปได้เลย อันนี้เป็นปลากระพงขาวและโพรชุตโตอิตาเลียน
ห่อหน่อไม้ฝรั่งในซุปฟักทองไข่ ตอนแรกไม่คิดว่าเข้ากันเลยสักนิด แต่พอได้ชิมแล้วเกินคาดมาก
อยากยืนปรบมือให้เชฟ เคเคชาน เชฟดังของฮ่องกงคนนี้จริงๆ
หลังจากเต็มอิ่มกับอาหารแล้ว ก็มาเติมความสนุกกันต่อกับโซน ทริล เมาเท่น (Thrill Mountain)
โซนสำหรับผู้แข็งแกร่ง ใจต้องนิ่ง ต้องกล้าท้าความเสียวของเครื่องเล่น ใครอ่อนแอก็แพ้ไปนะบอกเลย บรรยากาศของโซนนี้ตกแต่งด้วยธีมงานเฉลิมฉลอง ประดับประดาไปด้วยไฟกระพริบสีสันสดใสพร้อมเพลงประกอบจังหวะให้ตื่นเต้นเร้าใจ
หลังจากเต็มอิ่มกับอาหารแล้ว ก็มาเติมความสนุกกันต่อกับโซน ทริล เมาเท่น (Thrill Mountain) โซนสำหรับผู้แข็งแกร่ง ใจต้องนิ่ง ต้องกล้าท้าความเสียวของเครื่องเล่น ใครอ่อนแอก็แพ้ไปนะบอกเลย บรรยากาศของโซนนี้ตกแต่งด้วยธีมงานเฉลิมฉลอง ประดับประดาไปด้วยไฟกระพริบสีสันสดใส
พร้อมเพลงประกอบจังหวะให้ตื่นเต้นเร้าใจ
เวิร์ลลี่ เบิร์ด (Whirly Bird) แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเราจะเหมือนนกที่บินเหินเวหา หมุนรอบ 360 พร้อม
จอยสติ๊กไว้ให้เราบังคับขึ้นลงซ้ายขวาได้ด้วย
เดอะ แฟลซ (The Flash) เครื่องเล่นสุดเสียวที่มีวงเหวี่ยงที่สูงถึง 22 เมตร สังเกตได้ว่าอันนี้เรียกเสียงกรี๊ดและความหวาดเสียวได้มากที่สุดในบรรดาเครื่องเล่นทั้งหมดเลย
นอกจากนี้ยังมีเรฟ บูสเตอร์ (Rev Booster),บัมเปอร์ บลาสเตอร์ (Bumper Blaster), รถไฟเหมืองแร่ (Mine train), และเรจจิ้ง ริเวอร์ (Raging River) ไว้รอให้ทุกคนมาตื่นเต้นและสนุกไปด้วยกัน
ลองเล่นเครื่องเล่นของที่นี่แล้ว เจ้าจะลืมดรีมเวิลล์ สวนสยามไปในทันทีเลย
ถ้าเดินผ่านมาย่านตึกเก่าๆ แปลว่าแกได้เดินทางมาถึงโซน Old Hong Kong เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โซนนี้มีการจำลองโลเคชั่นของถนนและสถาปัตยกรรมตึกรามบ้านช่องของฮ่องกงในช่วง 1950-1970 มีซุ้มอาหารพื้นเมืองเก่าแก่ให้เราได้ลองชิม ถึงแม้ว่าราคาอาจจะแรงไปหน่อย แต่รสชาติและความดีงามที่ได้ถือว่าคุ้มค่ากับการลอง ความดีงามของโซนนี้อีกอย่างที่เราสัมผัสได้คือมุมถ่ายรูปเยอะมาก จะจิกกล้อง หรือชะม้อยชะม้ายสายตาได้แบบไม่ต้องแคร์ใคร เพราะทุกคนก็ล้วนรัวชัตเตอร์ใส่กันแบบไม่ยั้ง
เราพาทัวร์เกือบครทุกโซนก็ได้เวลาแห่งการรอคอย ตามมิชชั่นที่เราตั้งเป้าไว้แล้ว ใครพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศเฟลติวัลก็ถือบัตรก้าวเท้าเข้ามาในงาน Drink’N Music Fest 2018 ได้เลย งานนี้จัดขึ้นเอาใจคนรักเสียงดนตรี ควบคู่กับการดื่ม พร้อมลิ้มลองอาหารจากทั่วทุกมุมโลก เพื่อสร้างโอเชียลปาร์คให้เป็นจุดศูนย์กลางของความบันเทิงบนเกาะ
ร้านรวงต่างๆ ก็มีให้เลือกชิม เลือกช๊อปเยอะมากกกก มีทั้งแฮมเบอร์เกอร์แบบฮ่องกงที่มีเพียงที่นี่ที่เดียว หรือใครสายเนื้อก็มีเนื้อย่างหอมๆ ละมุนลิ้นไว้ให้ชิมเหมือนกัน และสำหรับสายเบียร์ การรอคอยของเจ้าเป็นที่สิ้นสุดแล้ว ณ บัดนาว เพราะงานนี้เค้าคัดสรรเบียร์ชั้นดีเหมือนหมวกคัดสรรบ้านของแฮรี่ทำนองนั้น เบียร์ดังจากหลากหลายยี่ห้อ รวมถึงเบียร์สดที่ถูกรังสรรค์รสชาติจากคนท้องถิ่นก็มีให้เลือกลองทุกแบบทุกสไตล์ เรียกว่าอยากชิมแบบไหนได้แบบนั้นเลยจริงๆ
นอกจากนี้ก็ยังสตรีทฟู้ดร้านดัง ไม่ว่าจะเป็น ซาลาเปาทอดจากเซี่ยงไฮ้ อาหารไต้หวัน
ปลาไหลจากญี่ปุ่น หรือแม้แต่บาร์บีคิวสไตล์ฮาวายก็มา
จุดเด่นอีกอย่างของงาน Drink’N Music Fest 2018 presented by Prudential นี้คือการแสดงของ
ฮ่องกงป๊อปมิวสิคไลฟ์ ที่จัดคอนเสิร์ตทุกคืน คืนละ 2 รอบ โดยมีนักร้องและวงดนตรีท้องถิ่นที่ฮอตฮิตเป็นกระแสกว่า 20 วงมาหมุนเวียนผลัดเปลี่ยนมอบความบันเทิงให้เราแบบไม่กั๊ก อย่าลืมนะ
งานนี้มีตั้งแต่ 10 มีนา ถึง 2 เมษา เฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น
สุดท้ายการเที่ยวฮ่องกงเมืองที่ใครๆ ก็บอกว่าเล็กแสนเล็ก และมีแต่ตึก ตึก ตึก นั้น ยังมีสถานที่ที่ดีงามเต็มไปด้วยสวนสัตว์และเครื่องเล่นแสนสนุกอย่าง Ocean Park อยู่ด้วย
และนี่คงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เราอยากกลับมาฮ่องกงอีกสักครั้ง
สำหรับเพื่อนๆ ที่มีแพลนจะมาอยู่ในช่วงนี้ หรือว่าจะมารอบหน้า เราแนะนำให้เพิ่มอีกหนึ่งลิสต์ที่เที่ยวห้ามพลาดในฮ่องกงเป็นที่นี่เข้าไปด้วย และทั้งหมดนี้คือการพาทัวร์โอเชี่ยลปาร์ค
ในฉบับของเรา Travel On The World ขอบคุณที่ติดตามกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น